เชิญพบกับ Review ของ Battlefield 4 การกลับสู่สนามรบครั้งใหม่นี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีอะไรพัฒนา มีจุดไหนน่าสนใจ ยักษ์ใหญ่ BF กลับมาแบบสมศักดิ์ศรีหรือไม่ ไปชมกันเลย
Singleplayer
มาว่ากันในส่วนของเนื้อเรื่องหลักก่อนสำหรับเกม Battlefield 4 โดยเนื้อหาในภาคนี้จะยังคงสานต่อปมความขัดแย้งของ สหรัฐอเมริกา กับ ฝ่ายรัสเซียเช่นเดิม โดยเนื้อหาในภาคนี้จะพูดถึงการมาของกองทัพฝ่ายที่ 3 นั่นก็คือฝ่ายของจีน โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Danial “Reck” Recker ในหน่วยพิเศษรหัสปฎิบัติการ Tombstone ซึ่งเข้าไปมีส่วนในแผนการครั้งสำคัญซึ่งชี้ชะตาสงครามที่กำลังเกิดขึ้น
ในภาคนี้ดู DICE ต้องการจะลดขนาดระดับความใหญ่ยักษ์ของเนื้อเรื่องให้ลดน้อยลง โดย “พยายาม” จะมุ่งเน้นไปที่การสื่ออารมณ์ของตัวละครมากขึ้น ทำให้อารมณ์ความยิ่งใหญ่ในรูปแบบ “สงคราม” ที่เคยมีมาในภาคก่อนจะหายไปเยอะเลยทีเดียว ถึงแม้ความยิ่งใหญ่ของ Scale สนามรบจะดูน้อยลง แต่ฉากระเบิดตูมตาม ฉาก Action ตื่นเต้นก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมไม่ได้หายไปไหน โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบฉากสนามรบที่มีขนาดกว้างขึ้น กับ Effect ระเบิดแบบตูมตาม ก็ไม่น่าจะผิดหวังกับการนำเสนอในภาคนี้
แต่สิ่งที่น่าเสียดายเอามากๆก็คือ ในขณะที่ DICE ต้องการเน้นหนักไปที่อารมณ์ความรู้สึกของเหล่าตัวละคร แต่บทของเกม และเนื้อหาที่นำเสนอกลับทำออกมาได้ไม่ดีพอ ขณะที่เทคโนโลยีด้านภาพนั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ฉากต่างๆที่พยายามจะดึงอารมณ์ร่วมของผู้เล่นนั้นยังทำออกมาได้ไม่ถึงขั้น ขณะที่การเล่าเรื่องของเกมกลับชวนหลับ ยากที่จะทำให้เราใส่ใจว่าเหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้น ใครไปถึงไหน ใครตาย ใครยังอยู่ ซึ่งเป็นข้อเสียเดิมๆของเกม FPS จาก EA อย่าง Battlefield 3 และ Medal of Honor ภาคล่าสุด ทำให้ความสนุกของเกมในโหมดเนื้อเรื่องทั้งหมดไปลงอยู่ที่การยิงถล่มศัตรูและชมฉากสภาพแวดล้อมต่างๆที่สวยสดงดงาม และที่เหมือนถูกตบซ้ำก็คือฉากจบของเกมที่ดันมีถึง 3 แบบ แต่ดันทำออกมาได้แย่เอามากๆทั้ง 3 แบบคือจบกันง่ายๆแทบไม่มีความรู้สึกอะไรให้ตรึงใจแม้แต่นิด
ถึงแม้ในส่วนของเนื้อเรื่องจะสอบตก แต่ในส่วนของเกมการเล่นนั้นยังคงสนุกสนาน มันส์สุดๆเช่นเดิมตามมาตรฐาน DICE Gunplay นั้นยิงกันแบบถล่มทลายหายห่วงได้เลยในจุดนี้ ลูกเล่นที่น่าสนใจก็คือในภาคนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนอาวุธ อุปกรณ์ที่ใช้ได้ตลอดเวลาในแต่ล่ะด่าน โดยการเดินเข้าไปเปลี่ยน จากกอง Weapon Cache ที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆทั่วทั้งเกม สำหรับการได้ปืนใหม่ๆมาใช้ในโหมดเนื้อเรื่องนั้นก็ได้มาจากการทำคะแนน ปลดล็อค ซึ่งวัดจากการสังหารศัตรูด้วยรูปแบบต่างๆ เช่นเข้าไปมีด ยิง Headshot ยิงได้หลายๆตัวติดกัน หรือสั่งให้ลูกน้องในทีมเป็นคนยิง เมื่อทำคะแนนได้ถึงที่กำหนดในแต่ล่ะด่านก็จะปลดล็อคได้ปืนใหม่ๆมาใช้ ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือการเก็บเอาอาวุธซึ่งหล่นจากศัตรูและกระจายอยู่ตามด่านมา อีกจุดที่น่าสนใจก็คือในภาคนี้มี ปืน และ มีด ในโหมด Multiplayer ซึ่งจะปลดล็อคมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นมาเล่นโหมด Singleplayer เท่านั้น (มีปืนอยู่ 3 กระบอก และมีดอีก 2 แบบ)
ในส่วนของ ภาพ และเสียงนั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงจุดเด่นหลักของเกม สภาพแวดล้อมต่างๆนั้นงดงามยดย้อย เสียงประกอบและดนตรีก็ยังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย โดยเฉพาะใครที่มี PC spec ระดับเทพที่สามารถปรับได้ถึง High และ Ultra โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าในสนามวงการเกมตอนนี้ไม่น่าจะมีเกมไหนเอาชนะ Battlefield 4 ได้อีกแล้วในเรื่องของภาพ และบรรยากาศ สภาพแวดล้อมภายในเกม ความสนุกที่ได้รับในการบุกตะลุยยิงกองทัพฝ่ายศัตรูนับล้านตลอดทั้งเกมนั้นก็ น่าจะเพียงพอให้ใครหลายคนได้รับความสนุกจากส่วนของ Singleplayer ไปบ้าง ก่อนจะโดดลงสนามรบ Multiplayer ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลใหญ่ที่แฟนๆ BF ซื้อเกมกันมา
สำหรับโหมดเนื้อเรื่องนั้น สรุปง่ายๆ ถือได้ว่า DICE ยังคงสอบไม่ผ่านเช่นเคยในเรื่องของการเล่าเรื่อง หากใครที่มองหาเนื้อเรื่องที่เข้มข้น บีบค้นอารมณ์ และต้องการจะซื้อมาเล่น Singleplayer อย่างเดียวต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะผิดหวังได้ง่าย เพราะตัวโหมดเนื้อเรื่องหลักนั้นสั้นเอามากๆ และสามารถเล่นจบได้ในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ถึงแม้ว่าฉากต่างๆจะดูมีขนาดใหญ่กว่าภาคก่อนหรือเกมอื่นๆแนวเดียวกัน ใครมองหาเนื้อเรื่องดีๆอาจจะต้องรอ Call of Duty: Ghosts คู่แข่งคนสำคัญที่จ่อรอคิวลงสนามในอีกไม่กี่วันนี้แล้วแทน
Multiplayer
มาดูกันในส่วนที่ชาว Battlefield น่าจะสนใจจริงๆกันดีกว่า สำหรับโหมดผู้เล่นหลายคน หากมองจากแค่ภายนอกอาจจะดูแล้วรู้สึกว่าตัวเกมในภาคที่ 4 ไม่ได้แตกต่างจากภาคก่อนสักเท่าไหร่ ขอบอกได้เลยว่าภาคนี้โหมด Multiplayer พัฒนาไปไกลมากมายหลายขั้นเลยทีเดียว
โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือในเรื่องของกราฟฟิกที่สวยงามขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงผลของผิวน้ำซึ่งปรับปรุงกว่าภาคก่อนจนเทียบกันไม่ติด ภาพการยิงถล่ม การพังทลายของตึก ลมพายุที่พัดโหมกระหน่ำ เรียกได้ว่า Battlefield 4 น่าจะเป็นเกมจำลองการรบที่สวยงามและสมจริงที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบัน (และเชื่อว่าก็คงหาใครมาล้มตำแหน่งนี้ลงได้ยาก) ยิ่งเมื่อผสมภาพอันงดงามเข้ากับลูกเล่น Levolution ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสนามรบโดยเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นได้จากฝีมือของผู้เล่น เช่นการพังตึกสูงเสียดฟ้าในด่าน Siege of Shanghai การพังเขื่อนกั้นน้ำ หรือปล่อยเรือยักษ์ให้พุ่งเข้าสู่เกาะ ซึ่งระบบ Levolution นั้นนอกจากจะดูตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการวางแผนและรูปแบบการสู้รบของฉากอีกเช่นกัน
ในส่วนของเกมการเล่นนั้นก็มีการปรับปรุงระบบการเล่น หลายจุดเช่นระบบ Specialize ที่ภาคก่อนเป็นการ Share กันภายใน Squad มาภาคนี้ถูกปรับให้คล้ายกับระบบ Perk โดยผู้เล่นแต่ล่ะคนสามารถเลือก “ชุด” Set ความสามารถพิเศษที่ต้องการ ซึ่งแบ่งเป็นระดับขั้นเอาไว้ โดยการจะได้ Perk ที่สูงขึ้นคนในหน่วยจำเป็นต้องร่วมมือกันทำภารกิจในเกม และหากคนในหน่วยตายลงพร้อมกันจนหมดหรือที่เรียกว่า Squad Wipe ระดับ Perk ดังกล่าวก็จะถูกลดลง นอกจากนั้นขนาดของ Squad ในภาคนี้ได้ถูกปรับให้มีจำนวน 5 คนแทน
ภาคนี้นั้นการเล่นของ Commander หรือผู้บัญชาการ ที่แฟนๆเรียกร้องถูกนำกลับมาอีกครั้ง โดยผู้เล่นที่เป็น Commander นั้นมีความสามารถในการสนับสนุนเหล่าผู้เล่นซึ่งเป็นทหารทั่วไป โดยการปล่อย UAV เพื่อระบุตำแหน่งฝ่ายศัตรู เรียก Gunship AC-130 มาบินยิงถล่ม หรือสั่งจู่โจมด้วยจรวด Missile โดยการได้ความสามารถต่างๆมานั้น Commander จำเป็นต้องพึ่งพิงเหล่าทหารในการเข้ายึดจุด Objective ที่กำหนดไว้
สำหรับแผนที่นั้นภาคนี้ DICE จัดมาให้ที่ 10 แผนที่ ใน 8 โหมดการเล่น นอกจากโหมดเก่าๆที่เราคุ้นเคยกันดี ในภาคนี้ได้ถูกเพิ่มโหมดใหม่อย่าง Obliteration และ Defuse เข้ามา โดยโหมด Obliteration จะเป็นการต่อสู้ในระดับใหญ่ซึ่งผู้เล่นต้องแข่งขันกันแย่งเอาระเบิดที่จะถูกสุ่มปล่อยออกมาในแผนที่และ แบกไปให้ถึงฐานศัตรูและจุดระเบิดให้สำเร็จ ส่วนโหมด Defuse จะเป็นการต่อสู้ในจำนวนที่น้อยลงโดยเป้าหมายคือการสังหารผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้หมด หรือระเบิดจุดเป้าหมายให้สำเร็จในโหมดนี้นั้นผู้เล่นไม่สามารถ Respawn ได้และสามารถถูกชุบชีวิต ได้เพียงครั้งเดียว
แผนที่ต่างๆนั้นยังคงถูกออกแบบมาอย่างดี มีจุดเด่นของตนเองอย่างเด่นชัด สภาพแวดล้อมในแต่ล่ะด่านนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจกันในทุกๆสนามรบที่ DICE จัดมาให้เลยทีเดียว
สำหรับบน PC นั้นมีข้อเสียที่ต้องขอพูดถึงกันหน่อยก็คือนับตั้งแต่วันวางจำหน่ายจนถึงตอนนี้ ตัวเกมยังมีปัญหาทางเทคนิคไม่จบสิ้น ทั้งความเสถียรของ Server ที่ไม่เข้าที่ ตัวเกมหลุดและค้างเป็นระยะ Bug ของเรื่องระบบเสียง จนผู้เล่นบ่นกันทั่วโลก และ DICE ก็พึ่งออกมาบอกสั้นๆว่ารับรู้ถึงปัญหาและกำลังหาทางแก้ไข
สรุป
หากตัดปัญหาด้านเทคนิคออกไป ซึ่งผมเชื่อว่า DICE น่าจะแก้ไขได้แล้วเสร็จในเร็ววันนี้ Battlefield 4 ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการจำลองสนามรบตามชื่อเกมเช่นเดิม แม้โหมดเนื้อเรื่องหลักจะยังคงเป็นจุดอ่อนของเกมเช่นเคย แต่ในด้านของโหมด Multiplayer ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงยอดเยี่ยมเช่มเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการปรับปรุงหลายจุดของตัวเกมให้ดียิ่งขึ้น ภาพที่สวยงามไปอีกขั้น และลูกเล่นใหม่ๆที่แฟนๆจะต้องชื่นชอบ ทำให้ Battlefield 4 ก็ยังคงเป็นทางเลือกแรกที่ผมขอแนะนำให้กับ เหล่าเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการสู้รบแบบยิ่งใหญ่ เพราะประสบการณ์ ความสนุก และสิ่งที่คุณจะได้พบได้เห็นใน Battlefield นั้น มันไปหาจากที่อื่นไม่ได้จริงๆ
ข้อดี ภาพสวยงดงาม ระบบเสียงยอดเยี่ยม, โหมด Multiplayer สนุกสนานเช่นเดิม , ปรับปรุงในหลายจุดจากภาคก่อน
ข้อด้อย โหมด Singleplayer ยังอ่อนแอเช่นเคย , ปัญหาทางด้านเทคนิครุมเร้าบน PC , ไม่เหมาะกับผู้เล่นที่คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนจาก Battlefield 4
ขอบคุณ รีวิวจาก gamingdose สำหรัยผมเเล้ว BF4 ก็เป็นเกมที่สนุกการเคลื่อนไหวดูลื้นมากครับสำหรับ ภาพคงดูจากรีวิวข้างบนเเล้วภาพสวยมาก คะเเนน รีวิวผม ให้ เต็มเลย ครัย สนุกมากครับไปสอยกันได้ที่ Otigin นะครับ
Credit : http://www.gamingdose.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น