Steam ใช้หน่วยเงินไทยแล้ว คนไทยซื้อเกมได้ถูกลง !!

จากคราวที่แล้วที่ได้มาบอกกล่าวกันไว้ว่า Steam กำลังจะรองรับหน่วยเงินบาทไทยในวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมานี้ และมันก็ได้เริ่มขึ้นแล้วครับ

แต่ที่น่าสนใจก็คือ ราคาในการซื้อเกมบน Steam ด้วยหน่วยเงินบาทไทยนั้น เมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลดอลล่าร์แล้ว พบว่าราคามันถูกกว่าเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ !! ตัวอย่างเช่น เกม Football Manager 2015 หรือ FM2015 ที่หลายคนนั้นได้เสียเงินเสียทองสั่งซื้อล่วงหน้ากันไปแล้วในราคา $49.99 แต่ถ้าซื้อในหน่วยเงินบาทนั้น จะเหลือแค่ 899 บาท หรือประมาณ $27.87 เท่านั้นครับ !!!

และเท่าที่ผมลองเช็คดู ไม่ว่ากี่เกมต่อกี่เกม แทบไม่มีเกมไหนที่ราคาไทยเทียบกับราคา USD ได้เลยครับ งานนี้ผมขอสรุปไปเลยว่า “คนไทยซื้อเกมบน Steam กันแพงเกินราคามาตลอดชีวิต !!”

credit : http://www.baagames.com/

มาดูรูปร่างของตึกทำงานของชาว EA กัน

UNITED STATES

• Redwood Shores
• Emeryville
• San Francisco
• Los Angeles
• Seattle
• Salt Lake City
• Austin
• Fairfax
• Orlando

BF4 Gamingdose รีวิว

เชิญพบกับ Review ของ Battlefield 4 การกลับสู่สนามรบครั้งใหม่นี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีอะไรพัฒนา มีจุดไหนน่าสนใจ ยักษ์ใหญ่ BF กลับมาแบบสมศักดิ์ศรีหรือไม่ ไปชมกันเลย

Singleplayer

มาว่ากันในส่วนของเนื้อเรื่องหลักก่อนสำหรับเกม Battlefield 4 โดยเนื้อหาในภาคนี้จะยังคงสานต่อปมความขัดแย้งของ สหรัฐอเมริกา กับ ฝ่ายรัสเซียเช่นเดิม โดยเนื้อหาในภาคนี้จะพูดถึงการมาของกองทัพฝ่ายที่ 3 นั่นก็คือฝ่ายของจีน  โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Danial “Reck” Recker ในหน่วยพิเศษรหัสปฎิบัติการ Tombstone  ซึ่งเข้าไปมีส่วนในแผนการครั้งสำคัญซึ่งชี้ชะตาสงครามที่กำลังเกิดขึ้น

ในภาคนี้ดู DICE ต้องการจะลดขนาดระดับความใหญ่ยักษ์ของเนื้อเรื่องให้ลดน้อยลง โดย “พยายาม” จะมุ่งเน้นไปที่การสื่ออารมณ์ของตัวละครมากขึ้น ทำให้อารมณ์ความยิ่งใหญ่ในรูปแบบ “สงคราม” ที่เคยมีมาในภาคก่อนจะหายไปเยอะเลยทีเดียว  ถึงแม้ความยิ่งใหญ่ของ Scale สนามรบจะดูน้อยลง แต่ฉากระเบิดตูมตาม ฉาก Action ตื่นเต้นก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมไม่ได้หายไปไหน  โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบฉากสนามรบที่มีขนาดกว้างขึ้น กับ Effect ระเบิดแบบตูมตาม ก็ไม่น่าจะผิดหวังกับการนำเสนอในภาคนี้

แต่สิ่งที่น่าเสียดายเอามากๆก็คือ ในขณะที่ DICE ต้องการเน้นหนักไปที่อารมณ์ความรู้สึกของเหล่าตัวละคร แต่บทของเกม และเนื้อหาที่นำเสนอกลับทำออกมาได้ไม่ดีพอ ขณะที่เทคโนโลยีด้านภาพนั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ฉากต่างๆที่พยายามจะดึงอารมณ์ร่วมของผู้เล่นนั้นยังทำออกมาได้ไม่ถึงขั้น  ขณะที่การเล่าเรื่องของเกมกลับชวนหลับ ยากที่จะทำให้เราใส่ใจว่าเหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้น ใครไปถึงไหน ใครตาย ใครยังอยู่ ซึ่งเป็นข้อเสียเดิมๆของเกม FPS จาก EA อย่าง Battlefield 3 และ Medal of Honor ภาคล่าสุด   ทำให้ความสนุกของเกมในโหมดเนื้อเรื่องทั้งหมดไปลงอยู่ที่การยิงถล่มศัตรูและชมฉากสภาพแวดล้อมต่างๆที่สวยสดงดงาม   และที่เหมือนถูกตบซ้ำก็คือฉากจบของเกมที่ดันมีถึง 3 แบบ แต่ดันทำออกมาได้แย่เอามากๆทั้ง 3 แบบคือจบกันง่ายๆแทบไม่มีความรู้สึกอะไรให้ตรึงใจแม้แต่นิด

ถึงแม้ในส่วนของเนื้อเรื่องจะสอบตก แต่ในส่วนของเกมการเล่นนั้นยังคงสนุกสนาน มันส์สุดๆเช่นเดิมตามมาตรฐาน DICE  Gunplay นั้นยิงกันแบบถล่มทลายหายห่วงได้เลยในจุดนี้ ลูกเล่นที่น่าสนใจก็คือในภาคนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนอาวุธ อุปกรณ์ที่ใช้ได้ตลอดเวลาในแต่ล่ะด่าน โดยการเดินเข้าไปเปลี่ยน จากกอง Weapon Cache ที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆทั่วทั้งเกม  สำหรับการได้ปืนใหม่ๆมาใช้ในโหมดเนื้อเรื่องนั้นก็ได้มาจากการทำคะแนน ปลดล็อค ซึ่งวัดจากการสังหารศัตรูด้วยรูปแบบต่างๆ เช่นเข้าไปมีด ยิง Headshot ยิงได้หลายๆตัวติดกัน หรือสั่งให้ลูกน้องในทีมเป็นคนยิง  เมื่อทำคะแนนได้ถึงที่กำหนดในแต่ล่ะด่านก็จะปลดล็อคได้ปืนใหม่ๆมาใช้ ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือการเก็บเอาอาวุธซึ่งหล่นจากศัตรูและกระจายอยู่ตามด่านมา   อีกจุดที่น่าสนใจก็คือในภาคนี้มี ปืน และ มีด ในโหมด Multiplayer ซึ่งจะปลดล็อคมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นมาเล่นโหมด Singleplayer เท่านั้น  (มีปืนอยู่ 3 กระบอก และมีดอีก 2 แบบ)

ในส่วนของ ภาพ และเสียงนั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงจุดเด่นหลักของเกม  สภาพแวดล้อมต่างๆนั้นงดงามยดย้อย เสียงประกอบและดนตรีก็ยังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย  โดยเฉพาะใครที่มี PC spec ระดับเทพที่สามารถปรับได้ถึง High และ Ultra โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าในสนามวงการเกมตอนนี้ไม่น่าจะมีเกมไหนเอาชนะ Battlefield 4 ได้อีกแล้วในเรื่องของภาพ และบรรยากาศ สภาพแวดล้อมภายในเกม ความสนุกที่ได้รับในการบุกตะลุยยิงกองทัพฝ่ายศัตรูนับล้านตลอดทั้งเกมนั้นก็ น่าจะเพียงพอให้ใครหลายคนได้รับความสนุกจากส่วนของ Singleplayer ไปบ้าง ก่อนจะโดดลงสนามรบ Multiplayer ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลใหญ่ที่แฟนๆ BF ซื้อเกมกันมา

สำหรับโหมดเนื้อเรื่องนั้น สรุปง่ายๆ ถือได้ว่า DICE ยังคงสอบไม่ผ่านเช่นเคยในเรื่องของการเล่าเรื่อง  หากใครที่มองหาเนื้อเรื่องที่เข้มข้น บีบค้นอารมณ์ และต้องการจะซื้อมาเล่น Singleplayer อย่างเดียวต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะผิดหวังได้ง่าย เพราะตัวโหมดเนื้อเรื่องหลักนั้นสั้นเอามากๆ และสามารถเล่นจบได้ในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ถึงแม้ว่าฉากต่างๆจะดูมีขนาดใหญ่กว่าภาคก่อนหรือเกมอื่นๆแนวเดียวกัน    ใครมองหาเนื้อเรื่องดีๆอาจจะต้องรอ Call of Duty: Ghosts คู่แข่งคนสำคัญที่จ่อรอคิวลงสนามในอีกไม่กี่วันนี้แล้วแทน

Multiplayer  

มาดูกันในส่วนที่ชาว Battlefield น่าจะสนใจจริงๆกันดีกว่า สำหรับโหมดผู้เล่นหลายคน หากมองจากแค่ภายนอกอาจจะดูแล้วรู้สึกว่าตัวเกมในภาคที่ 4 ไม่ได้แตกต่างจากภาคก่อนสักเท่าไหร่  ขอบอกได้เลยว่าภาคนี้โหมด Multiplayer  พัฒนาไปไกลมากมายหลายขั้นเลยทีเดียว

โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือในเรื่องของกราฟฟิกที่สวยงามขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงผลของผิวน้ำซึ่งปรับปรุงกว่าภาคก่อนจนเทียบกันไม่ติด  ภาพการยิงถล่ม การพังทลายของตึก ลมพายุที่พัดโหมกระหน่ำ เรียกได้ว่า Battlefield 4 น่าจะเป็นเกมจำลองการรบที่สวยงามและสมจริงที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบัน  (และเชื่อว่าก็คงหาใครมาล้มตำแหน่งนี้ลงได้ยาก)  ยิ่งเมื่อผสมภาพอันงดงามเข้ากับลูกเล่น Levolution ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสนามรบโดยเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นได้จากฝีมือของผู้เล่น  เช่นการพังตึกสูงเสียดฟ้าในด่าน Siege of Shanghai การพังเขื่อนกั้นน้ำ  หรือปล่อยเรือยักษ์ให้พุ่งเข้าสู่เกาะ  ซึ่งระบบ Levolution นั้นนอกจากจะดูตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการวางแผนและรูปแบบการสู้รบของฉากอีกเช่นกัน

ในส่วนของเกมการเล่นนั้นก็มีการปรับปรุงระบบการเล่น หลายจุดเช่นระบบ Specialize ที่ภาคก่อนเป็นการ Share กันภายใน Squad มาภาคนี้ถูกปรับให้คล้ายกับระบบ Perk โดยผู้เล่นแต่ล่ะคนสามารถเลือก “ชุด” Set ความสามารถพิเศษที่ต้องการ ซึ่งแบ่งเป็นระดับขั้นเอาไว้ โดยการจะได้ Perk ที่สูงขึ้นคนในหน่วยจำเป็นต้องร่วมมือกันทำภารกิจในเกม และหากคนในหน่วยตายลงพร้อมกันจนหมดหรือที่เรียกว่า Squad Wipe  ระดับ Perk ดังกล่าวก็จะถูกลดลง นอกจากนั้นขนาดของ Squad ในภาคนี้ได้ถูกปรับให้มีจำนวน 5 คนแทน

ภาคนี้นั้นการเล่นของ Commander หรือผู้บัญชาการ ที่แฟนๆเรียกร้องถูกนำกลับมาอีกครั้ง โดยผู้เล่นที่เป็น Commander นั้นมีความสามารถในการสนับสนุนเหล่าผู้เล่นซึ่งเป็นทหารทั่วไป โดยการปล่อย UAV เพื่อระบุตำแหน่งฝ่ายศัตรู  เรียก Gunship AC-130 มาบินยิงถล่ม หรือสั่งจู่โจมด้วยจรวด Missile โดยการได้ความสามารถต่างๆมานั้น Commander จำเป็นต้องพึ่งพิงเหล่าทหารในการเข้ายึดจุด Objective ที่กำหนดไว้

‘

สำหรับแผนที่นั้นภาคนี้ DICE จัดมาให้ที่ 10 แผนที่ ใน 8 โหมดการเล่น นอกจากโหมดเก่าๆที่เราคุ้นเคยกันดี ในภาคนี้ได้ถูกเพิ่มโหมดใหม่อย่าง  Obliteration และ Defuse เข้ามา โดยโหมด Obliteration จะเป็นการต่อสู้ในระดับใหญ่ซึ่งผู้เล่นต้องแข่งขันกันแย่งเอาระเบิดที่จะถูกสุ่มปล่อยออกมาในแผนที่และ แบกไปให้ถึงฐานศัตรูและจุดระเบิดให้สำเร็จ  ส่วนโหมด Defuse จะเป็นการต่อสู้ในจำนวนที่น้อยลงโดยเป้าหมายคือการสังหารผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้หมด หรือระเบิดจุดเป้าหมายให้สำเร็จในโหมดนี้นั้นผู้เล่นไม่สามารถ Respawn ได้และสามารถถูกชุบชีวิต ได้เพียงครั้งเดียว

แผนที่ต่างๆนั้นยังคงถูกออกแบบมาอย่างดี มีจุดเด่นของตนเองอย่างเด่นชัด สภาพแวดล้อมในแต่ล่ะด่านนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจกันในทุกๆสนามรบที่ DICE จัดมาให้เลยทีเดียว

สำหรับบน PC นั้นมีข้อเสียที่ต้องขอพูดถึงกันหน่อยก็คือนับตั้งแต่วันวางจำหน่ายจนถึงตอนนี้ ตัวเกมยังมีปัญหาทางเทคนิคไม่จบสิ้น ทั้งความเสถียรของ Server ที่ไม่เข้าที่ ตัวเกมหลุดและค้างเป็นระยะ  Bug ของเรื่องระบบเสียง จนผู้เล่นบ่นกันทั่วโลก  และ DICE ก็พึ่งออกมาบอกสั้นๆว่ารับรู้ถึงปัญหาและกำลังหาทางแก้ไข

สรุป

หากตัดปัญหาด้านเทคนิคออกไป ซึ่งผมเชื่อว่า DICE น่าจะแก้ไขได้แล้วเสร็จในเร็ววันนี้ Battlefield 4 ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการจำลองสนามรบตามชื่อเกมเช่นเดิม แม้โหมดเนื้อเรื่องหลักจะยังคงเป็นจุดอ่อนของเกมเช่นเคย แต่ในด้านของโหมด Multiplayer ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงยอดเยี่ยมเช่มเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  ด้วยการปรับปรุงหลายจุดของตัวเกมให้ดียิ่งขึ้น ภาพที่สวยงามไปอีกขั้น และลูกเล่นใหม่ๆที่แฟนๆจะต้องชื่นชอบ ทำให้ Battlefield 4 ก็ยังคงเป็นทางเลือกแรกที่ผมขอแนะนำให้กับ เหล่าเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการสู้รบแบบยิ่งใหญ่  เพราะประสบการณ์ ความสนุก และสิ่งที่คุณจะได้พบได้เห็นใน Battlefield นั้น มันไปหาจากที่อื่นไม่ได้จริงๆ

ข้อดี   ภาพสวยงดงาม ระบบเสียงยอดเยี่ยม, โหมด Multiplayer สนุกสนานเช่นเดิม , ปรับปรุงในหลายจุดจากภาคก่อน

ข้อด้อย  โหมด Singleplayer ยังอ่อนแอเช่นเคย , ปัญหาทางด้านเทคนิครุมเร้าบน PC , ไม่เหมาะกับผู้เล่นที่คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนจาก Battlefield 4

ขอบคุณ รีวิวจาก gamingdose สำหรัยผมเเล้ว BF4 ก็เป็นเกมที่สนุกการเคลื่อนไหวดูลื้นมากครับสำหรับ ภาพคงดูจากรีวิวข้างบนเเล้วภาพสวยมาก คะเเนน รีวิวผม ให้ เต็มเลย ครัย สนุกมากครับไปสอยกันได้ที่ Otigin นะครับ

Credit : http://www.gamingdose.com/

Sim 4 ISOut

“The Sims” เกมแนว Life simulation ที่โลดแล่นอยู่บนเครื่อง PC มากว่า 14 ปีแล้ว เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร ตัวเกมได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ และขึ้นแท่นเกมที่ขายดีที่สุดใน PC มาตลอด ตัวเกมได้ออกภาคต่อมาทั้งหมด 3 ภาค มีภาคเสริมและภาคหยิบย่อยอื่นๆอีกมากมาย และตอนนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับภาคต่อที่แท้จริงหลังจากหากินกับภาคเสริมของ The Sims 3 มาตลอดหลายปี การมาของ The Sims 4 นั้น จะสามารถทำให้ผู้เล่นได้พบกับประสบการ์ณที่แปลกใหม่ได้หรือไม่ หลังจากที่มีการสร้างสรรค์ผลงานของเกมนี้มาแล้วนับ 14 ปี ภาคต่อภาคนี้ควรจะมอบประสบการ์ณที่แปลกใหม่ให้กับผู้เล่น ไม่ใช่การเล่นมุขซ้ำของภาคเก่าๆเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่างานนี้ Maxis จะทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ค่ะ

The Sims 4 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Electronic Entertainment Expo หรือ E3 2013 ตอนนั้นเป็นกระแสทีฮือฮามาก เนื่องจากในช่วงนั้นเป็นการเปิดตัวของภาคเสริมตัวสุดท้ายของ The Sims 3 (Into the Future) แฟนๆเกมนี้หลายๆ คนรู้สึกดีใจที่ในที่สุดจะมีภาคต่อสักทีหลังจากหากินกับภาคเสริมของ The Sims 3 มายาวนาน และหลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวร้ายที่ไม่เลวร้ายเท่าไรนัก(สำหรับดิฉัน)ว่าตัวเกมจะไม่มี สระว่ายน้ำ วัยเด็กหัดเดิน และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นก็สภาพแวดล้อมในตัวเกมจะไม่เปิดกว้างอีกต่อไป รวมไปถึงระบบ Create a style ที่โดดเด่นใน The Sims 3 ก็ถูกตัดออกไปอีกด้วย .. แต่ว่า นั้นคือสาเหตุหลักที่จะทำให้ The Sims 4 นั้นเป็นภาคต่อที่แย่หรือ??

ก่อนอื่นเลยดิฉันขอให้ทุกๆท่านลองมองจุดเด่นของ The Sims 4 ก่อน ในเมื่อมันเป็นภาคต่อ ก็ต้องมีอะไรใหม่ๆ และถูกพัฒนาขึ้นจากภาคก่อนๆแน่นอน อย่างแรกเลยคือ ชาวซิมแต่ละคนที่ฉลาดมากกว่าเดิมและมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น มี”อารมณ์” มากขึ้นหลายๆแบบขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวผู้เล่นเองหรือของตัวซิมเอง ยกตัวอย่างเช่น ซิมคนนี้ชื่อ John เขาหลงรักซิมสาวที่ชื่อ Jenny แต่ John เป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไรจึงไม่กล้าไปสารภาพรักกับ Jenny แล้ว john ก็ได้ไปดื่มกับเพื่อนๆ ของเขา ทันไดนั้นเอง เมื่อเขาได้ดื่ม เข้าก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าไปสารภาพรักกับ Jenny จึงทำให้ 2 คนนั้นรักกันและมีลูกด้วยกัน เมื่อทั้ง 2 คนแต่งงานกันแล้ว ชีวิตคู่ไม่ดีนักมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อ John และ Jenny ได้มาเห็นลูกน้อยก็รู้สึกเห็นใจลูก จึงตัดสินใจไม่เลิกกันปรับความเข้าใจกัน .. นี่เป็น 1 ตัวอย่างที่ดิฉันคิดว่ามันสุดยอดมาก ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเห็นชาวซิมมีอารมณ์เป็นของตัวเองแบบนี้เลย และจะไม่ใช่แค่ชาวซิมกับชาวซิมกันเองเท่านั้น บางครั้งหากผู้เล่นกำลังบังคับให้ชาวซิมนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ แต่ชาวซิมคนนี้อยากเข้าห้องน้ำมากๆ แต่ผู้เล่นก็ยังไม่ให้ไปสักที เมื่อถึงเวลาที่เราให้เขาไปเข้าห้องน้ำ เราคลิกไปที่โถส้วมปุ๊บ แทนที่จะขึ้นมาแบบธรรมดาๆว่า “Use” ดันกลายเป็น “Pee Like a Champion” มาแทน และซิมคนนั้นก็จะทำท่าทาง Pee Like a Champion จริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ฮาและสร้างอมยิ้มระหว่างเล่นได้ดี ยังไม่หมดแค่นี้ ชาวซิมแต่ละคนจะมีอารมณ์และท่าทางกับทั้งสิ่งของ และชาวซิมด้วยกันเอง แตกต่างกันออกไป ตามสถานะการต่างๆ หรือตามแถบความต้องการของตัวละครนั้นๆ จึงทำให้ชาวซิมแต่ละคนมีชีวิตชีวาขึ้นมากมาย บางครั้งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องไปบังคับชาวซิมของตัวผู้เล่นเอง แต่เราจะมองดูเขาทำในสิ่งที่เขาต้องการ ตามอารมณ์ แบบสมเหตุสมผล พวกเขาจะมีความคิดในรูปแบบของเขาเอง ซึ่งจะไม่เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไปค่ะ

ส่วนต่อมาที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นสุดๆ แล้วสำหรับ The Sims 4 ก็คือระบบ Create A Sim ที่ถูกยกเครื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในส่วนนี้ดิฉันขอชมจากใจจริงเลยว่า Maxis ทำได้ยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากการ Create A Sim ในภาคนี้จะเป็นอะไรที่ ง่าย สะดวกสบาย รวดเร็ว และมีรายละเอียดที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งรูปร่าง หน้าตา เสื้อผ้า รูปแบบท่าทางการเดิน ลักษณะนิสัย และทักษะต่างๆ ที่จะมีผลโดยตรงต่องานที่พวกเขาทำ เช่นหากคุณเลือกให้ชาวซิมคนนี้มีทักษะด้านโปรแกรมเมอร์แล้วเขาได้เข้าทำงานเกี่ยวกับบริษัทเกมแห่งหนึ่งจนได้กลายเป็นผู้พัฒนาเกมอันดับต้นๆของโลกอย่างง่ายดายเนื่องจากเขามีทักษะด้านนี้อยู่แล้ว ในบางครั้งหากชาวซิมคนนี้มีทักษะด้านศิลปะขั้นสูง เมื่อซิมคนนี้ไปทำอาหารเขาก็จะสามารถสร้างสรรค์รูปแบบอาหารแปลกใหม่ขึ้นมาได้และสามารถก้าวขึ้นไปเป็นเชฟอันดับ 1 ของโลกได้เลย. สิ่งต่อมาที่ในที่สุดก็มีสักทีนั้นคือระบบการสร้าง “พ่อแม่พี่น้อง” หรือ “ฝาแฝด” หรือ “ลูกชาย-ลูกสาว” ของเราสักที เช่นหากคุณต้องการจะมีลูกชาย-สาว ตั้งแต่เริ่ม สิ่งที่คุณทำก็เพียงแค่สร้างซิมพ่อ-แม่ มาก่อน และใช้ระบบนี้ ตัวเกมจะเอาสปีชีส์ของพ่อ-แม่ มาผสมกัน และออกมาเป็นลูกชายหรือลูกสาวของเราได้ตามต้องการ เช่นเดียวกับการสร้างพี่ชายน้องชาย-สาว หรือฝาแฝด ก็ทำได้โดยการเอาสปีชีส์ของตัวซิมหลัก มาสร้างนั้นเองค่ะ

หากผู้เล่นยังจำได้(ต้องจำได้แน่ๆ) นั้นก็คือการโหลดฉาก/โหลดเข้าเกมของ The Sims 3 มันเป็นอะไรที่ช้ามากๆ เป็นฝันร้ายของชาว The Sims กันเลยทีเดียว เนื่องจากแค่เข้าเกม โหลดเกม โหลดเข้าเมือง โหลดเข้าบ้าน ก็ใช้เวลามากกว่า 10 นาทีแล้ว ทำเอาไม่มีอารมณ์จะเล่นก่อนที่จะโหลดเสร็จเสียอีก นั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่ระดับโลกแตกสำหรับแฟนๆเกมนี้ค่ะ แต่ใน The Sims 4 นั้นปัญหาการโหลดช้าพวกนี้จะหมดไปทันที เพราะตัวเกมจะมีการโหลดฉากที่เร็วมากๆ ชนิดที่ว่าใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีก็โหลดเสร็จแล้ว แต่ถึงกระนั้นตัวเกมก็จะมีการโหลดฉากที่บ่อยเอาเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น ในละแวกบ้านของผู้เล่น มีบ้านของเพื่อนบ้านผู้เล่นอยู่ฝั่งตรงข้าม แน่นอนว่าคุณสามารถเดินข้ามถนนไปหาเพื่อนบ้านคุณได้เช่นเดียวกับ The Sims 3 แต่ถึงแบบนั้นคุณต้องโหลดฉากเพื่อที่จะที่ไปบ้านของเพื่อนคุณได้ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ด้วยการที่ตัวเกมโหลดเร็วมากๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาในการเล่นแม้แต่น้อยเลยค่ะ

ใน The Sims 3 ผู้เล่นสามารถจัดการละแวกบ้านของผู้เล่นเองได้อย่างเต็มที่และจะมีสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างเปิดโอกาสให้ผู้เล่นจะเดินไปที่ไหน เมื่อไร ยังไงก็ได้ กลายเป็นเกม Open World อย่างเต็มตัวไปเลย แต่ใน The Sims 4 นั้นกลับไม่ใช่แบบนั้นสิคะ..

ละแวกบ้านของ The Sims 4 นั้นจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆไปเลย ละแวกบ้านของ The Sims 4 ตอนนี้จะมีทั้งหมด 2 ที่นั่นคือ Willow Creek และ Oasis Springs ใน 1 ละแวกบ้านจะมีทั้งหมด 6 ส่วน จะเป็นหมู่บ้าน 4 ส่วน สถานที่ส่วนกลางเช่นพวกยิม,ห้องสมุด,คลับ 1 ส่วน และ สวนสาธารณะ 1 ส่วน เมื่อผู้เล่นเข้าไปในส่วนนั้นๆ แล้วจะสามารถเดินไปไหนก็ได้ที่ถูกจำกัดไว้ในส่วนนั้นๆ  เพื่อเป็นการลดระยะเวลาโหลดเกมนั้นเอง แต่ดิฉันคิดว่านี่ไม่ใช่ปัญหาหลักในการเล่นเท่าไรนัก เมื่อเราเข้าไปอยู่ในส่วนนั้นๆแล้ว เราจะสามารถมองเห็นพื้นที่รอบๆได้อย่างเต็มที่เพียงแค่เดินออกนอกสวนไม่ได้เท่านั้นเอง แต่การจำกัดแบบนี้ก็ทำให้หลายๆ คนน่าจะไม่พอใจกันสักเท่าไร แต่เพื่อแลกกับการที่ทำให้ตัวเกมโหลดเร็วขึ้น ดังนั้นดิฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ข้อเสียค่ะ

หากพูดถึง The Sims แล้ว Gameplay ในโหมด Build Mode ก็เป็นอีก 1 โหมดที่สร้างความสนุกให้ผู้เล่นมากเช่นกัน บางคนใช้เวลากับโหมดนี้มากกว่าโหมดชีวิตเสียอีกค่ะ ในภาค 4 นั้นดูเหมือนว่าจะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก แถมยังมีการเพิ่มรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ตามตัวบ้าน แต่ก็ไม่ถึงกับเยอะมาก นอกจากนั้นแล้วมีการจัดการอินเตอร์เฟสที่ดูเป็นระเบียบเรียบง่าย การบังคับมุมกล้องที่ดีกว่าเดิม มีตัวช่วยมาอย่างมากมาย แต่ที่น่าผิดหวังก็คือ ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย เหมือนเป็นการเอา Build Mode ของ The Sims 3 มาปรับแต่งใหม่ให้ใช้งานง่ายมากกว่าเดิม เท่านั้นเองค่ะ

สุดท้ายนี้แล้ว The Sims 4 จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแฟนๆเกมนี้ไหม ?? ดิฉันใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมงหลังจากตัวเกมวางขายและเป็นให้เล่นใน Origin ดิฉันพยายามเข้าถึงทุกอย่างในตัวเกมแล้วดิฉันรู้สึกว่า “ตัวเกมมันพัฒนาขึ้นมาจากภาค 3 จริงๆ นะ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารมณ์ ท่าทาง ความคิดสร้างสรรค์ของชาวซิมที่ดูดีมากๆ build mode ที่ยังเปิดกว้างให้เราออกแบบสร้างบ้านในฝันของเราได้ง่ายกว่าเดิม อินเตอร์เฟสในเกมที่ออกแบบมาดี เรียบง่าย ไม่รกหูรกตาอีกต่อไป และการโหลดเกมที่สุดแสนจะรวดเร็วมากๆ และลูกเล่นต่างๆในเกมที่ดูเหมือนไม่มีอะไรใหม่ แต่มันกลับสร้างความสนุกที่มากกว่าภาคก่อนๆ เสียอีก จนทำให้ดิฉันลืมไปเลยว่าภาคนี้สร้างสระว่ายน้ำไม่ได้ ไม่มีวัยเด็กหัดเดิน สภาพแวดล้อมไม่เปิดกว้าง เมื่อเล่นจริงๆแล้ว เรื่องพวกนี้มันก็ไม่ได้ลบความขลังของตัวเกมนี้ไปเลยแม้แต่น้อยค่ะ จุดเด่นจริงๆ ของ The Sims นั้นคือ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ ของชาวซิมมากกว่าที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกไปกับมันและทำให้เหมือนเราได้เป็นตัวซิมตัวนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่นั่งบังคับให้ไปทำนู้นทำนี่ แบบนี้ก็น่าเบื่อแย่ นอกจากนี้ในตัวเกมภาค 4 ก็ยังมีกราฟฟิคที่ “ดูเหมือน” จะสวยขึ้นมากกว่าภาค 3 มากๆ อย่างแรกเลยคือรายละเอียดของตัวละครที่ดูดีมากกว่าเดิม แสงและเงาต่างๆ ที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ขอยอมรับก่อนว่าตอนแรกที่ดิฉันเห็น Gameplay ของ The Sims 4 ดิฉันคิดว่า กราฟฟิคมันไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย แต่เมื่อได้เล่นเองจริงๆ มันแตกต่างจากที่ดิฉันคิดไปเลยค่ะ อีกทั้งยังทำให้ตัวเกมใช้สเปคที่น้อยลงมากกว่าภาค 3 ด้วยค่ะ รวมไปถึงเพลงประกอบที่ในภาคนี้ก็ยังทำได้ดีเช่นเคย ฟังครั้งแรกก็ติดหูแล้ว ผู้เล่นยังสามารถเลือกฟังเพลงของภาคเก่าๆได้อีกด้วย ที่สำคัญในตัวเกมภาคนี้ผู้เล่นสามารถสร้างซิม/บ้าน ต่างๆ แล้วนำไปแชร์ให้กับคนอื่นๆได้ในเกมทันที โดยที่ไม่ต้องออกจากเกมอีกแล้ว ระบบนี้เรียกว่า The Gallery และดูเหมือนว่า The Sims 4 นั้นจะรองรับ Mod อย่างเต็มที่งานนี้ใครที่อยากเห็น The Sims 4 เวอร์ชั่นแปลกใหม่ ก็รอดูได้เลยค่ะ ซึ่งจะลูกเล่นนี้เป็นการทำให้ตัวเกมยืดระยะเวลาไปได้นานมากเลยทีเดียว

สรุปแล้ว The Sims 4 นั้นเป็นภาคต่อที่ทำออกมาได้ดียอดเยี่ยม ถึงแม้จะถูกตัดระบบ/ฟีเจอร์เด่นๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเกมนั้นหมดความขลัง หรือความสนุกไปเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงแบบนั้น ตัวเกมก็ยังมีข้อเสียที่รู้ๆกันอยู่แล้วค่ะ ฟีเจอร์,ลูกเล่น,ระบบต่างๆ ที่เคยมีใน The Sims 3 ภาคเสริมนั้นหายไปหมดเลยค่ะ และของตบแต่งบ้านที่น้อยมากๆ บวกกับละแวกบ้านที่มีแค่ 2 ละแวกบ้าน จึงทำให้คิดได้เลยว่าในอนาคต The Sims 4 จะมีภาคเสริมตามมามากกว่า 20 ภาคเช่นเคย ตามสูตรของเกมนี้

ข้อดี

• ชาวซิมจะมีความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น และมีอารมณ์แปลกใหม่เกิดขึ้น เมื่ออยู่ในสถานะการที่แตกต่างกันออกไป
• Gameplay ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีความลื่นไหลในการเล่นมากกว่าเดิม รวมไปถึงระบบการบังคับต่างๆ
• รูปแบบ Interface ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่แบบยกเครื่อง ทำให้ไม่รกหูรกตา แต่มีความสะดวกสบายในการใช้มากกว่าเดิม
• การปรับแต่งสร้างตัวละคร Create A Sim ที่ถูกยกเครื่องขึ้นมาใหม่ ทำได้ดีมากๆ
• โหลดเกมเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ต่อไปนี้การโหลดเกมใน The Sims จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
• เพลงประกอบที่ยังยอดเยี่ยมเช่นเดิม

ข้อเสีย

• จำกัดพื้นที่และสภาพแวดล้อมมากเกินไปและมีละแวกบ้านให้เลือกเล่นน้อย
• ฟีเจอร์เด่นๆ ที่สำคัญๆ ที่เคยมีใน The Sims 3 ทั้งภาคหลัก/เสริม ถูกตัดออกไป (เพื่อนำมาขายเป็น DLC)
• หากชื้อตัวเกมเดี่ยวๆมา แล้วในอนาคตมี DLC ออกมาหากเราไม่ชื้อ DLC จะทำให้น่าเบื่อขึ้นมาทันทีเลยล่ะ

Credit : http://www.juropy.com/

ขอขอบคุณ http://www.juropy.com ที่เขียนรีวิวนะครับ